Tuesday, May 9, 2017

จุดกำเนิด ZOOCRAFT

ความจริง ZOOCRAFT ยังเป็นแบรนด์ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก อย่างไรก็ดีผมอยากจะเล่าที่มาของ ZOOCRAFT ว่ามีแนวคิดและความเป็นมาอย่างไร

เริ่มจากเมื่อประมาณ 6-7 ปีก่อน ผมมีความคิดที่ต้องการจะสร้างแบรนด์ให้กับสินค้าของผมเอง เพื่อสร้างความแตกต่างและสามารถเพิ่มมูลค่าได้อีกด้วย สินค้าที่ผมทำเป็นงานหัตถกรรมแก้ว โดยใช้วิธีการเป่าแก้วให้เป็นตัวสัตว์ต่างๆ ดังนั้นจึงคิดนำคำ 2 คำมาผสมกัน คือ ZOO ซึ่งหมายถึงสวนสัตว์ และ CRAFT ซึ่งหมายความถึงงานหัตถกรรมหรืองานมือ ความหมายโดนรวมก็คือ งานฝีมือที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ต่างๆ คล้ายๆกับสวนสัตว์ที่รวบรวมสัตว์ประเภทต่างๆเอาไว้

บางครั้งเวลาเรียกชื่อเป็นภาษาไทยก็อาจจะยากสักหน่อยสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย ผมมักจะเรียกเป็นภาษาไทยว่า "สู้ครับ" คล้ายกับว่าต้องการจะให้กำลังใจกับตนเองในการทำงาน

นอกจากจะใช้ ZOOCRAFT เป็นชื่อเรียกแบรนด์สินค้าแก้วเป่ารูปสัตว์แล้ว ผมยังใช้คำว่า ZOOCRAFT ไปตั้งเป็นชื่อร้านกาแฟอีกด้วย เพื่อให้คนรู้จักแบรนด์นี้มากขึ้น

แต่ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์สินค้าแก้วเป่าหรือเป็นชื่อร้านกาแฟ สิ่งหนึ่งที่คล้ายกันก็คือ การที่เราพยายามเน้นในเรื่องของคุณภาพของตัวสินค้าเป็นอันดับแรกๆ เพราะเราเชื่อว่าคุณภาพเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เราอยู่ได้มาจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะต้องปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลงอย่างไร

ในความคิดของผม ถึงแม้โลกเราจะเปลี่ยนแปลงไปมากเท่าใด แต่มนุษย์ก็ยังมีความเกี่ยวข้องหรือผูกพันกัยสัตว์ต่างๆอยู่ดี ดังนั้นสินค้าที่ทำขึ้นมาโดยใช้สัตว์ต่างๆเป็นต้นแบบ ก็ยังสามารถขายได้ เพียงแต่เราต้องทราบว่า เราต้องการจะนำเสนอสัตว์ต่างๆนั้นในแง่มุมใด เช่นความน่ารัก ความสวยงาม ความลึกลับ เป็นต้น

ในอนาคต ZOOCRAFT อาจจะไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่ที่สินค้าหัตถกรรมเท่านั้น เราอาจจะขยายประเภทของสินค้าและบริการออกไปอีก โดยหากพิจารณาแล้วว่าเป็นสินค้าหรือบริการที่มีประโยชน์และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะจากประเทศไทย เพราะปัจจุบันเรามีฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ :ซึ่งกำลังสนใจความเป็นไทย ทั้ง เรื่องของอาหาร สมุนไพร และสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย


การกำหนด Free Shipping ในการขายสินค้าบน eBay

เราคงเคยอ่านเจอข้อความหรือคำแนะนำเกี่ยวกับการกำหนดค่าขนส่งในการขายสินค้าบน eBay โดยให้กำหนดเป็นแบบ Free Shipping ซึ่งจะช่วยให้การขายสินค้าได้ดีขึ้น จากประสบการณ์ของผมที่ได้ทำมา พบว่ามีส่วนถูกบ้าง แต่ก็ไม่ใช่จะทั้งหมด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าและจำนวนสินค้าที่ผู้ซื้อต้องการด้วย

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราขายสินค้าประเภทของใช้ ของกิน เช่น สบู่ ยาสีฟัน ของใช้ต่างๆที่ซื้อได้ใน 7-11 เราอาจบวกค่าสินค้าและค่าขนส่งรวมกันในการกำหนดราคาขาย (sale price) และในส่วนที่เป็นค่าขนส่งก็กำหนดให้เป็น Free Shipping ซึ่งเท่าที่เห็นมาทุกคนที่ขายสินค้าประเภทนี้ก้จะทำกันแบบนี้เกือบทุกคน เพราะจะช่วยให้ผู้ซื้อตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

แต่ถ้าเป็นสินค้าประเภทอื่น เช่นของสะสมต่างๆ ที่มีคนขายหลายคน การกำหนดค่าขนส่งเป็น Free shipping อาจไม่ค่อยช่วยในเรื่องการเพิ่มยอดขายมากเท่าใด เพราะคนซื้อจะเปรียบเทียบราคา Sale price ว่าของใครราคาต่ำที่สุด และสำหรับคนที่ต้องการซื้อสินค้าหลายๆชิ้นก็จะไม่ค่อยชอบ เพราะเค้ารู้ว่า ราคาสินค้าที่เป็น free shipping นั้น จริงๆแล้ว เราได้รวมค่าขนส่งไปแล้ว ซึ่งเค้าไม่สามารถขอลดราคาค่าขนส่งได้ แต่หากราคาสินค้าและค่าส่งแยกจากกัน คนที่ซื้อของหลายชิ้นก็มักจะขอลดค่าส่งเพราะเป็นการส่งแบบ combine shipping

ดังนั้นในการกำหนดการขายสินค้าเป็นแบบ Free Shipping เราอาจต้องทดลองดูว่ามันจะช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าเป็นอย่างไร หากมันไม่ค่อยช่วยอะไร เราก็ควรกำหนดราคาสินค้าและค่าขนส่งแบบแยกกันดีกว่า